ผลการดำเนินงาน ปี 2025
SDG11 : Sustainable Cities and Communities

1. มหาวิทยาลัยราชภักนครปฐมเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ อบต.โพรงมะเดื่อ

      เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (มรน.) นำโดย ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดี เป็นประธานในพิธีเปิด "โรงเรียนผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนตำบลโพรงมะเดื่อ" ณ ตำบลโพรงมะเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมี นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี และได้รับเมตตาจาก พระอาจารย์บุญเหลือ ฐานวุฒโท เจ้าอาวาสวัดลำอีซู เจิมป้ายเพื่อความเป็นสิริมงคล

     การจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุฯ นี้ การจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุฯ นี้ เป็นผลมาจากความร่วมมือ ที่เข้มแข็งระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม องค์การบริหารส่วนตำบลโพรงมะเดื่อ และหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลโพรงมะเดื่อ, กลุ่มพัฒนาสตรีโพรงมะเดื่อ, กองทุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นครปฐม, สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครปฐม,  ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บ้านหุบรัก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหุบรัก และตำบลโพรงมะเดื่อ, ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลโพรงมะเดื่อ, และกศน. โพรงมะเดื่อ ภายใต้ "โครงการนวัตกรรมการบริหารจัดการโรงเรียนผู้สูงอายุแบบมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" โดยมี นายชวลิต ศรีโพธิ์ช้าง ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เป็นผู้กล่าวรายงาน ท่ามกลางคณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษาสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ มรน. ตลอดจนผู้นำชุมชนและเครือข่ายประชาชนที่เข้าร่วมอย่างคับคั่ง ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดี มรน. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น โดย มรน. ได้ร่วมกับ อบต.โพรงมะเดื่อ ในการนำองค์ความรู้และนวัตกรรมมาเสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชนให้อยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน สำหรับโรงเรียนผู้สูงอายุฯ รุ่นที่ 1 นี้ มีนักเรียนจำนวน 30 คน เข้าร่วมโครงการระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ - 30 สิงหาคม 2567 โดยมีหลักสูตรการเรียนรู้ 4 มิติ ได้แก่

    1. มิติด้านสุขภาพ: มุ่งเน้นการส่งเสริม สุขภาวะผู้สูงอายุ (Elderly Well-being) โดยตรง ผ่านกิจกรรมตรวจสุขภาพเบื้องต้น, การให้ความรู้เรื่องการใช้ยา, การปฐมพยาบาล, สมุนไพรเพื่อสุขภาพ และการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย

    2. มิติด้านเศรษฐกิจและวิชาชีพ : ส่งเสริม การสร้างรายได้ และการพึ่งพาตนเองตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) ผ่าน การฝึกอาชีพ (Vocational Training) เช่น งานฝีมือสร้างอาชีพ (ยาหม่อง, น้ำมันนวด, ยาดม), การทำอาหารแปรรูป, การแสดงศิลปะท้องถิ่น และการเกษตรในพื้นที่ขนาดเล็ก รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อยกระดับสินค้า

   3. มิติด้านสังคม : ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูล โดยให้ความรู้ด้านกฎหมายและ สิทธิผู้สูงอายุ, การใช้เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร และการทัศนศึกษาเพื่อเปิดโลกทัศน์

   4. มิติด้านสิ่งแวดล้อม : สร้าง ารตระหนักรู้ (Awareness Building) ด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการให้ความรู้เรื่อง การจัดการขยะในครัวเรือน, การจัดสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ และกิจกรรมจิตอาสาเพื่อชุมชน

ผลลัพธ์ (Outcomes)

ผลการดำเนินงาน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ส.ค. 67) พบว่า ผู้สูงอายุ 30 คน ได้รับองค์ความรู้ในการดูแลตนเอง และจากการประเมินคุณภาพชีวิต พบว่าผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จำนวน 12 คน (คิดเป็นร้อยละ 40) และยังช่วยลดภาระการพึ่งพิงของครอบครัวได้อีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ : 1. https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=35165

                             2. https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=38729

 

2. กิจกรรมการพัฒนาด้านศิลปะและวัฒนธรรมชุมชน ณ โรงเรียนบ้านพุน้ำร้อน จ.สุพรรณบุรี

    เมื่อวันที่ 24 - 27 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (มรน.) นำโดยผศ.ดร.เก่งกาจ ต้นทองคำ พร้อมด้วยนักศึกษาสาขาวิชาศิลปศึกษา ชั้นปีที่ 2 และ 3 ลงพื้นที่จัดกิจกรรม ณ โรงเรียนบ้านพุน้ำร้อน เพื่อ พัฒนาทักษะ (Skill Development) ด้านศิลปะให้กับนักเรียน ซึ่งเป็นการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ (Quality Education) และช่วย ลดความเหลื่อมล้ำ (Reduced Inequalities) ในการเข้าถึงกิจกรรมการเรียนรู้ของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล

    กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ "โครงการยกระดับคุณภาพการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัด สพฐ. โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านศิลปะให้กับนักเรียน ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านศิลปะวัฒนธรรมอันเป็นอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ลาวครั่งในพื้นที่ชุมชนบ้านพุน้ำร้อน กิจกรรมหลักประกอบด้วย:

1. การทำผ้าชิ้นมัดย้อม และ การทำเสื้อเพ้นท์: เป็นการ พัฒนาทักษะอาชีพ (Skill Development) ให้นักเรียน

2. การวาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง โครงการพระราชดำริ รัชกาลที่ 9: เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้

3. การพัฒนาด้านศิลปะวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ลาวครั่ง: มุ่งเน้นการอนุรักษ์และสืบสาน มรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่น (Local Cultural Heritage)

    กิจกรรมนี้สะท้อนถึงความร่วมมือ (Partnership) ระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน ในการยกระดับการศึกษาและส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่ โรงเรียนขนาดเล็กซึ่งมักอยู่ในพื้นที่ห่างไกล และให้ความสำคัญกับ กลุ่มชาติพันธุ์ (Ethnic Group) (ลาวครั่ง) ซึ่งเป็นการช่วย ลดความเหลื่อมล้ำ (Reduced Inequalities) ในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและกิจกรรมพัฒนาวัฒนธรรม รวมทั้งการปกป้องและสืบสาน มรดกทางวัฒนธรรม (Cultural Heritage) ผ่านกิจกรรม "พัฒนาด้านศิลปะวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ลาวครั่ง" นอกจากนี้ การวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังยังเป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพของโรงเรียนด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ : https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=34696

3. ร่วมงานประเพณีแห่ธงฉลองเทศกาลตรุษจีน ประจำปี พ.ศ. 2567 และพิธีเปิดป้ายมรดกจังหวัด ชุมชนเก่าตลาดบางหลวง ร.ศ. 122

     เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยะวรรณ ปิ่นแก้ว รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม และเจ้าหน้าที่สำนักศิลปะและวัฒนธรรม ได้เข้าร่วม "งานประเพณีแห่ธงฉลองเทศกาลตรุษจีน ประจำปี พ.ศ. 2567" และ "พิธีเปิดป้ายมรดกจังหวัด ชุมชนเก่าตลาดบางหลวง ร.ศ. 122" ณ โรงเจบ้วนฮกตั๊ว ชุมชนตลาดบางหลวง ร.ศ.122 อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม พิธีดังกล่าวได้รับเกียรติจาก นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในพิธีเปิด โดยงานนี้จัดขึ้นจากความร่วมมือของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม, จังหวัดนครปฐม, เทศบาลตำบลบางหลวง, หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและประกาศเกียรติคุณของชุมชนเก่าตลาดบางหลวงในฐานะมรดกของจังหวัด

    การเข้าร่วมของมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ อนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของท้องถิ่น ได้แก่ "ประเพณีแห่ธงฉลองเทศกาลตรุษจีน" และร่วมเป็นสักขีพยานใน "พิธีเปิดป้ายมรดกจังหวัด ชุมชนเก่าตลาดบางหลวง ร.ศ. 122" ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชุมชน กิจกรรมนี้ยังเป็นการส่งเสริม การเรียนรู้ด้านวัฒนธรรม (Cultural Education) ให้แก่บุคลากรและสังคม

ข่าวประชาสัมพันธ์ :  https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=34483

4. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมผนึกกำลังภาคีเครือข่าย ฟื้นฟูประเพณี “ตักบาตรข้าวหลาม” ชุมชนวัดพระงาม ชู Soft Power ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

    เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (มรน.) นำโดย ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดี พร้อมด้วย ผศ.ดร.พิทักษ์พงศ์ ป้อมปราณี รองอธิการบดี และคณะทำงานวิจัยได้เข้าร่วม "ประเพณีทำบุญตักบาตรข้าวหลามชุมชนวัดพระงาม" เนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดพระงาม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม กิจกรรมนี้เป็นการฟื้นฟูประเพณีท้องถิ่นที่เคยสูญหายไป โดยเป็นความร่วมมืออันเข้มแข็งระหว่างมหาวิทยาลัยฯ, สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน วัด และโรงเรียนในชุมชนวัดพระงาม. โดยมีเป้าหมายเพื่อนำ "ข้าวหลาม" ซึ่งเป็นภูมิปัญญาอัตลักษณ์ของชุมชน มาสร้างกระแสเป็น Soft Power เพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มต่อสังคม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดนครปฐม 

    ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดี กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย “ทวารวดีนครปฐม : สร้างคุณค่า สร้างมูลค่า สร้างจิตสำนึกรักท้องถิ่น” ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.). โครงการนี้มุ่งเน้นการจัดการทุนทางวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและสร้างสำนึกรักท้องถิ่น โดยชุมชนวัดพระงามถือเป็นพื้นที่สำคัญที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับอารยธรรมทวารวดี และมีภูมิปัญญาการเผาข้าวหลามซึ่งเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมายาวนาน บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความร่วมมือจากอาจารย์ นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ ที่มาร่วมทำบุญตักบาตรข้าวหลาม เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น และร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้เข้มแข็งต่อไป

กิจกรรมนี้สะท้อนถึงการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย ดังนี้:

1. การปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม : เป็นการฟื้นฟูและสืบสานประเพณีอันเป็น "ทุนวัฒนธรรม" (Cultural Capital) และ "ภูมิปัญญา" (Local Wisdom) ของชุมชนวัดพระงาม เพื่อสร้าง "จิตสำนึกรักท้องถิ่น" 

2. การเติบโตทางเศรษฐกิจและเศรษฐกิจฐานราก: กิจกรรมนี้มีเป้าหมายในการนำ "ข้าวหลาม" ซึ่งเป็น "สินค้าทางวัฒนธรรม" (Cultural Product) มาพัฒนาต่อยอดเป็น "Soft Power" เพื่อ "สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ" ให้กับจังหวัดนครปฐม และ "ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน"ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

3. ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา: การฟื้นฟูประเพณีครั้งนี้เกิดขึ้นจาก "ความร่วมมือของภาคีเครือข่าย"หลายภาคส่วน ที่ทำงานร่วมกันภายใต้โครงการวิจัย “ทวารวดีนครปฐม : สร้างคุณค่า สร้างมูลค่า สร้างจิตสำนึกรักท้องถิ่น” ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนจาก หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

ข่าวประชาสัมพันธ์ : https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=34650

5. พัฒนาชุมชน จัดอบรมการวิเคราะห์ข้อมูลชุมชนด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS)

    เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้จัด "โครงการอบรมบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลชุมชนด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน" โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์จิตรภณ สุนทร รองคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เป็นประธานเปิดโครงการ และ ดร.สุธิดา สองสีดา ประธานสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน เป็นผู้กล่าวรายงาน

    การอบรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 24 เมษายน 2567 ณ สำนักคอมพิวเตอร์ ชั้น 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะด้านการจัดการ จัดเก็บข้อมูลชุมชนด้วยระบบเทคโนโลยีดิจิทัล และพัฒนาทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูลชุมชนด้วยการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนเพื่อ การพัฒนาที่ยั่งยืน

    กิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก อาจารย์พีรพัฒน์ พันศิริ และคณาจารย์สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน มรน. พร้อมด้วย คุณชิงชัย หุมห้อง นักภูมิศาสตร์สายเทคโนโลยี จากบริษัท แมพพิเดีย จำกัด และผู้ก่อตั้งเพจ QGIS THAILAND COMMUNITY ร่วมเป็นวิทยากร การอบรมครั้งนี้ถือเป็นเวทีแห่ง การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และสะท้อนถึง ความร่วมมือหลายภาคส่วน (Multi-stakeholder Partnerships) อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายองค์กร ทั้งอาจารย์และบุคลากรจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ, สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (AFRIMS), หน่วยวิจัยไวรัสวิทยากำแพงเพชร, องค์การบริหารส่วนจังหวัด, เทศบาล, องค์การบริหารส่วนตำบล และภาคเอกชน โดยมีคณาจารย์จากสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน และผู้เชี่ยวชาญจากภาคเอกชน (บริษัท แมพพิเดีย จำกัด) ร่วมเป็นวิทยากร

ข่าวประชาสัมพันธ์ : https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=35255