ผลการดำเนินงาน ปี 2025
SDG1-4-3 : Programmes for services access

1.  ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาพืชเกษตรหลักนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

 ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาพืชเกษตรหลักนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาพืชเกษตรหลักนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาพืชเกษตรหลักที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครปฐม โดยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมสำหรับการผลิตพืช เช่น ไม้ผล ข้าว ผักต่างๆ และพืชดอก ทั้งนี้เพื่อตอยสนองความต้องการหรือแก้ไขปัญหาทางการเกษตรในจังหวัดนครปฐม รวมถึงการแก้ปัญหาหารผลิตผลผลิตพืชในพื้นที่ให้มีคุณภาพและปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรนอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดเทตโนโลยีให้กลุ่มเกษตรกร ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพของเกษตรกร และการอนุรักษ์สายพันธุ์พืชที่เป็นพืชถิ่นที่สำคัญอีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม

2. การให้บริการจัดฝึกอบรม โครงการ/กิจกรรมต่างๆ เพื่อปรับปรุงพัฒนาการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานสำหรับทุกคน

          มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มีความมุ่งมั่นในการนำองค์ความรู้ นวัตกรรม และทรัพยากรไปใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน อันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตได้อย่างเท่าเทียม บริการขั้นพื้นฐานในที่นี้ครอบคลุมด้าน สุขภาพ (รวมถึงโภชนาการ) และ มาตรฐานการครองชีพ (รวมถึงอาหารปลอดภัย น้ำดื่ม สุขอนามัย พลังงานสะอาด ที่อยู่อาศัย และการสร้างทรัพย์สิน/รายได้) ผ่านการจัดโครงการฝึกอบรมและกิจกรรมที่หลากหลาย

โครงการและการดำเนินงานที่สำคัญ

          มหาวิทยาลัยได้ลงพื้นที่ชมชนเพื่อศึกษาปัญหา ความต้องการของชุมชน และบูรณาการองค์ความรู้ ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญของคณาจารย์และนักวิจัย เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการสำคัญ ดังนี้

1. โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรม องค์ความรู้และเทคโนโลยีเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรและชุมชนโดยตรง เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงทรัพยากรทางเศรษฐกิจ (access to economic resources) และเทคโนโลยี เพื่อสร้าง อาชีพที่ยั่งยืน (sustainable livelihoods) ให้แก่ชุมชนเกษตรกร ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (การผลิตพืชปลอดภัย) ไปจนถึงการสร้างมูลค่าเพิ่ม ประกอบด้วยกิจกรรมหลักที่ส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่น ได้แก่:

  • การถ่ายทอดนวัตกรรมเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กิจกรรมนวัตกรรมการจัดการจุลินทรีย์และสารสกัดจากพืชเพื่อการผลิตกระชายแบบชีววิธี
  • การสนับสนุนการ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ กิจกรรมการพัฒนาและส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่อยอดการใช้ประโยชน์จากกระชาย
  • กิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการจัดการผลผลิตทางเกษตร
  • กิจกรรมการผลิตพืชแบบปลอดภัย
  • กิจกรรมยกระดับเกษตรมูลค่าสูง
  • การส่งเสริม การตลาดและการท่องเที่ยว (นวัตกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อการท่องเที่ยวชุมชน)

2. โครงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (University as a Marketplace)

          มหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็น "ตลาดแห่งความรู้" จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการมี ช่องทางเข้าถึงตลาด (market access) และสร้าง ธุรกิจที่ยั่งยืน (sustainable business) ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดสมัยใหม่ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการ สร้างรายได้ (income generation) ให้กับครัวเรือน และได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการ สภาพปัญหา จนนำไปสู่การพัฒนาการตลาดแบบบูรณาการ ส่งผลให้ชุมชนได้รับผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นทั้งสิ้น 25 ผลิตภัณฑ์

3. โครงการพัฒนาต้นแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG

          โดยมหาวิทยาลัยได้นำผลงานวิจัยมาช่วยชุมชนพัฒนา ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมจากสีเปลือกมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร เป็นการสร้างธุรกิจใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสร้างมูลค่าจากสิ่งของเหลือใช้ เป็นนวัตกรรมเพื่อสังคม (social innovation) ที่ช่วยสร้าง การเสริมพลังทางเศรษฐกิจ (economic empowerment) ให้แก่ชุมชน โดยการนำวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ถือเป็นการสนับสนุน วิสาหกิจชุมชน (community enterprise) ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

4. โครงการยกระดับการท่องเที่ยวบนฐานวิถีชีวิตใหม่จากภูมิปัญญาท้องถิ่น

          มหาวิทยาลัยได้ส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล (digital inclusion) เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ (economic opportunities) ใหม่ๆ ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน ให้ทรัพยากรและความรู้ในการสร้างเครื่องมือประชาสัมพันธ์ดิจิทัล เช่น การสร้าง เว็บไซต์ด้วย Google Sites ให้กับชุมชนตำบลห้วยม่วง เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว ผลลัพธ์จากการสนับสนุนนี้ทำให้ชุมชนได้รับ รางวัลกิจกรรมดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2567 ซึ่งการที่ชุมชนตำบลห้วยม่วงได้รับรางวัลระดับจังหวัด เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการ เสริมสร้างศักยภาพให้แก่ท้องถิ่น (local empowerment)

5. โครงการสนับสนุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)

          มหาวิทยาลัยไม่ได้มองแค่การผลิต แต่ให้ความช่วยเหลือเชิงระบบผ่าน โครงการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเพื่อสร้างมูลค่าตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งในด้านเกษตร อาหาร และการท่องเที่ยว เพื่อให้ธุรกิจชุมชนเติบโตได้อย่างมั่นคง

6. การส่งเสริมด้านสุขภาพ โภชนาการ และสุขภาวะ

          มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นการให้ความรู้และสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับคนทุกช่วงวัย รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี

  • การดูแลผู้สูงอายุ, นวัตกรรมการบริหารจัดโรงเรียนผู้สูงอายุฯ, และกิจกรรม "สูงวัยอย่างไรให้มีสุขภาวะ": ให้ความรู้ ดูแล และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบ (สุขภาพ)
  • โครงการพื้นที่ต้นแบบสิ่งแวดล้อมสู่สุขภาวะ: พัฒนาสภาพแวดล้อมในชุมชนให้น่าอยู่ ถูกสุขลักษณะ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม (สุขภาพ, สุขอนามัย, ที่อยู่อาศัย)
  • โครงการ "เด็กยุคใหม่ห่างไกลควันบุหรี่" และ โครงการส่งเสริมการออกกำลังกายและเล่นกีฬาในโรงเรียน: มุ่งเน้นการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในกลุ่มเด็กและเยาวชน (สุขภาพ)
  • การดำเนินงานของ ศูนย์ทดสอบอาหารปลอดภัย: สร้างความมั่นใจในคุณภาพอาหารที่จำหน่ายในชุมชน (สุขภาพ, โภชนาการ)

สรุปผลลัพธ์และผลกระทบเชิงประจักษ์

          กิจกรรมและโครงการเหล่านี้ได้ส่งผลให้ชุมชนมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวมากขึ้น เข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย มีทางเลือกในการใช้พลังงานสะอาด และมีช่องทางในการสร้างรายได้ที่หลากหลายขึ้น ซึ่งล้วนเป็นการ เพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน และยกระดับคุณภาพชีวิตโดยรวมของประชาชนในพื้นที่เป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม

หลักฐานอ้างอิง

1.โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและโรงเรียนผู้สูงอายุ

2.โครงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน 

3.โครงการพัฒนาต้นแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG 

4.กิจกรรม ผู้สูงอายุ

5.กิจกรรม เด็กยุคใหม่ห่างไกลควันบุหรี่

6.ศูนย์ทดสอบอาหารปลอดภัย

3. โครงการ KICK OFF การขับเคลื่อนกิจกรรมโคก หนอง นา อารยเกษตร ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนตำบลโพรงมะเดื่อ

      มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมได้เข้าร่วมกิจกรรม KICK OFF เพื่อขับเคลื่อนโครงการ "โคก หนอง นา อารยเกษตร" ซึ่งเป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567. โครงการนี้ส่งเสริม เกษตรทฤษฎีใหม่ (New Theory Agriculture) และ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy) เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและรายได้ในระดับครัวเรือนและชุมชน

      ในการเข้าร่วมครั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้นำ ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ส่งเสริมการใช้ พลังงานสะอาด  และช่วยในการถนอมผลผลิต ลดการสูญเสีย พร้อมด้วยผลผลิตทางการเกษตร ไปร่วมจัดแสดงและ ถ่ายทอดความรู้ (knowledge transfer). ยิ่งไปกว่านั้น มหาวิทยาลัยได้มอบตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวให้กับศูนย์เรียนรู้ชุมชนตำบลโพรงมะเดื่อ เพื่อให้ชุมชนนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป อันเป็นการสนับสนุน การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน (Sustainable Community Development )

      การเข้าร่วมกิจกรรมนี้เป็นการตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและชุมชนเพื่อส่งเสริมแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ข่าวประชาสัมพันธ์: https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=36151

4. คณะวิทยาศาสตรืและเทคโนโลยี จับมือ อบต.ทัพหลวง ลงนาม MOU บริการวิชาการ-ฝึกอาชีพชุมชน ประเดิมหลักสูตร "ยาดมสมุนไพร"

    เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.พงษ์นาถ นาถวรานันท์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) กับ องค์การบริหารส่วนตำบลทัพหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

    ในพิธีลงนามครั้งนี้ รศ.ดร.พงษ์นาถ นาถวรานันท์ คณบดีฯ ได้เป็นผู้ลงนามฝ่ายมหาวิทยาลัยฯ ร่วมกับ นายชนะกิจ พวงอินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทัพหลวง โดยมี ดร.กัญญา สอนสนิท, ผศ.ดร.รุ่งทิวา ชิดทอง อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ฯ และคณะผู้บริหารจาก อบต.ทัพหลวง ร่วมให้การต้อนรับและเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม SC 108 อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์ฯสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ศึกษาวิจัย และให้บริการวิชาการแก่ชุมชนทัพหลวง โดยมุ่งเน้นการจัดโครงการฝึกอบรมอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างทักษะและรายได้เสริมให้กับชุมชน โดยประเดิมกิจกรรมแรกด้วยการฝึกอบรมอาชีพ “ทำยาดมสมุนไพร และพิมเสนน้ำ” ซึ่งเป็นการนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริม สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ข่าวประชาสัมพันธ์ : https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=34390

5. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมผนึกกำลังภาคีเครือข่าย ฟื้นฟูประเพณี “ตักบาตรข้าวหลาม” ชุมชนวัดพระงาม ชู Soft Power ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

    เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (มรน.) นำโดย ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดี พร้อมด้วย ผศ.ดร.พิทักษ์พงศ์ ป้อมปราณี รองอธิการบดี และคณะทำงานวิจัยได้เข้าร่วม "ประเพณีทำบุญตักบาตรข้าวหลามชุมชนวัดพระงาม" เนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดพระงาม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม กิจกรรมนี้เป็นการฟื้นฟูประเพณีท้องถิ่นที่เคยสูญหายไป โดยเป็นความร่วมมืออันเข้มแข็งระหว่างมหาวิทยาลัยฯ, สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน วัด และโรงเรียนในชุมชนวัดพระงาม. โดยมีเป้าหมายเพื่อนำ "ข้าวหลาม" ซึ่งเป็นภูมิปัญญาอัตลักษณ์ของชุมชน มาสร้างกระแสเป็น Soft Power เพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มต่อสังคม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดนครปฐม 

    ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดี กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย “ทวารวดีนครปฐม : สร้างคุณค่า สร้างมูลค่า สร้างจิตสำนึกรักท้องถิ่น” ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.). โครงการนี้มุ่งเน้นการจัดการทุนทางวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและสร้างสำนึกรักท้องถิ่น โดยชุมชนวัดพระงามถือเป็นพื้นที่สำคัญที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับอารยธรรมทวารวดี และมีภูมิปัญญาการเผาข้าวหลามซึ่งเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมายาวนาน บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความร่วมมือจากอาจารย์ นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ ที่มาร่วมทำบุญตักบาตรข้าวหลาม เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น และร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้เข้มแข็งต่อไป

กิจกรรมนี้สะท้อนถึงการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย ดังนี้:

1. การปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม : เป็นการฟื้นฟูและสืบสานประเพณีอันเป็น "ทุนวัฒนธรรม" (Cultural Capital) และ "ภูมิปัญญา" (Local Wisdom) ของชุมชนวัดพระงาม เพื่อสร้าง "จิตสำนึกรักท้องถิ่น" 

2. การเติบโตทางเศรษฐกิจและเศรษฐกิจฐานราก: กิจกรรมนี้มีเป้าหมายในการนำ "ข้าวหลาม" ซึ่งเป็น "สินค้าทางวัฒนธรรม" (Cultural Product) มาพัฒนาต่อยอดเป็น "Soft Power" เพื่อ "สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ" ให้กับจังหวัดนครปฐม และ "ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน"ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

3. ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา: การฟื้นฟูประเพณีครั้งนี้เกิดขึ้นจาก "ความร่วมมือของภาคีเครือข่าย"หลายภาคส่วน ที่ทำงานร่วมกันภายใต้โครงการวิจัย “ทวารวดีนครปฐม : สร้างคุณค่า สร้างมูลค่า สร้างจิตสำนึกรักท้องถิ่น” ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนจาก หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

ข่าวประชาสัมพันธ์ : https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=34650

6. สถาบันวิจัยและพัฒนา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเล และวิสาหกิจชุมชน ปันสุขเบเกอรี่

   เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประพนธ์ เล็กสุมา รองผู้อำนวยการฯ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประภาพรรณ เพียรชอบ ผู้ช่วยอธิการบดี, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พุฒิยา รัตนศิริวัฒน์, อาจารย์นิลุบล คงเปรม และเจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนา ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการ

   การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ "โครงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน" ในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและนครปฐม โดยคณะทำงานได้เข้าติดตามประเมินผลการดำเนินงานและตรวจเยี่ยมสถานที่ผลิตของ 2 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ "กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเล" ตำบลบางกระเจ้า จังหวัดสมุทรสาคร และ "วิสาหกิจชุมชน ปันสุขเบเกอรี่" อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เพื่อให้คำแนะนำและสนับสนุนการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ของชุมชนต่อไป

   กิจกรรมนี้เป็นการบริการวิชาการแก่ชุมชนและความร่วมมือ  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามประเมินผลการดำเนินงาน และตรวจเยี่ยมสถานที่ผลิตของกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่น การสนับสนุนนี้มุ่งเป้าไปที่การยกระดับมาตรฐานการผลิต เพื่อเพิ่มศักยภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการท้องถิ่นให้กับวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มผู้ผลิตอาหารทะเล ในพื้นที่เป้าหมาย ทั้งยังเป็นการส่งเสริม การผลิตที่ยั่งยืน ยกระดับความปลอดภัยของอาหาร จากการใช้ "ทรัพยากรทางทะเล" (Marine Resources) อย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ :  https://news.npru.ac.th/u_news/news_detail.php?news_id=35113