ผลการดำเนินงาน ปี 2025
SDG1 : No Poverty

1. ศูนย์ฝึกศาสตร์พระราชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

ศูนย์ฝึกศาสตร์พระราชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
การจัดตั้ง “ศูนย์ฝึกศาสตร์พระราชา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม” ด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งได้ทำงานยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างต่อเนื่อง โดย ใช้เนื้อที่จำลองกว่า 10 ไร่ เปิดฐานการเรียนรู้/กิจกรรมการสร้างองค์ความรู้ จำนวน 6 ฐาน เช่น การปลูกไม้ยืนต้น การทำนา การปลูกพืชผักสวนครัว การปลูกหญ้าแฝก การทำฝายชะลอน้ำ การทำคลองไส้ไก่ คันนาทองคำ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาได้สัมผัสและลงมือปฏิบัติจริง เช่น เรียนรู้เรื่องการปลูกหญ้าแฝก เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ช่วยกักเก็บตะกอนดิน ลดการสูญเสียธาตุอาหารพืชจากพื้นที่ เพิ่มอินทรียวัตถุแก่ดินและรักษาความชื้นในดิน เป็นต้น

 

ผลผลิตที่ได้จากศูนย์การเรียนรู้ฯ

 

2. นโยบายการจัดหาอย่างมีจริยธรรม

นโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียว (NPRU Green University)

          มหาวิทยาลัยมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารจัดการด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยฯ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มีการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เกิดการลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน มหาวิทยาลัยจึงได้จัดทำนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียว (NPRU Green University) เพื่อให้อาจารย์ บุคลากร นักศึกษา ร้านค้าผู้ประกอบการเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการจัดการด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัย

 

นโยบายอนุรักษ์พลังงาน

          มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้จัดทำประกาศ เรื่อง นโยบายอนุรักษ์พลังงาน  เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานด้านการจัดการพลังงาน และเพื่อให้ทุกคนในมหาวิทยาลัยเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการจัดการพลังงานในหน่วยงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

3.  ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาพืชเกษตรหลักนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

 ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาพืชเกษตรหลักนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาพืชเกษตรหลักนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาพืชเกษตรหลักที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครปฐม โดยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมสำหรับการผลิตพืช เช่น ไม้ผล ข้าว ผักต่างๆ และพืชดอก ทั้งนี้เพื่อตอยสนองความต้องการหรือแก้ไขปัญหาทางการเกษตรในจังหวัดนครปฐม รวมถึงการแก้ปัญหาหารผลิตผลผลิตพืชในพื้นที่ให้มีคุณภาพและปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรนอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดเทตโนโลยีให้กลุ่มเกษตรกร ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพของเกษตรกร และการอนุรักษ์สายพันธุ์พืชที่เป็นพืชถิ่นที่สำคัญอีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม

4. การสำเร็จการศึกษาของนักศึกษาที่เป็นกลุ่มขาดแคลนเงิน

จำนวนผู้ได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาแก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดี เพื่อพัฒนาสาขาวิชาสู่ความเป็นเลิศ ประจำปีการศึกษา 2565 จำนวน 140 ทุน โดยมีนักศึกษาผู้รับทุน ที่สำเร็จการศึกษา จำนวน 25 คน รายละเอียดดังนี้

5. มาตรการประหยัดพลังงาน

มาตรการประหยัดพลังงาน

          มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้จัดทำประกาศ เรื่อง มาตรการประหยัดพลังงาน  เพื่อเป็นแนวทางการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน  เช่น มาตรการประหยัดไฟฟ้า มาตรการประหยัดน้ำมัน มาตรการลดค่าใช้โทรศัพท์ มาตรการลดค่าไปรษณีย์ มาตรการประหยัดน้ำประปา การลดใช้พลาสติก

6. adadadadadadaadadad

7. โครงการบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและพัฒนานวัตกรสู่ความยั่งยืน

          มหาวิทยาลัยได้ดำเนินพันธกิจในการเป็นที่พึ่งของชุมชนในการขจัดความยากจนในทุกมิติ (ending poverty in all its forms) โดยมุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ (economic resilience) การขจัดความยากจนผ่านการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยได้ใช้ทรัพยากร องค์ความรู้ และนวัตกรรมที่มีอยู่ จัดทำโครงการและกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เพื่อสนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการรายย่อยและวิสาหกิจชุมชน (Local Start-ups) ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ครอบคลุมการพัฒนาวัตถุดิบ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การตลาด และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งส่งผลให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

โครงการและการดำเนินงานที่สำคัญ

          มหาวิทยาลัยได้ลงพื้นที่ชมชนเพื่อศึกษาปัญหา ความต้องการของชุมชน และบูรณาการองค์ความรู้ ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญของคณาจารย์และนักวิจัย เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการสำคัญ ดังนี้

1. โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรม องค์ความรู้และเทคโนโลยีเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรและชุมชนโดยตรง เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงทรัพยากรทางเศรษฐกิจ (access to economic resources) และเทคโนโลยี เพื่อสร้าง อาชีพที่ยั่งยืน (sustainable livelihoods) ให้แก่ชุมชนเกษตรกร ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (การผลิตพืชปลอดภัย) ไปจนถึงการสร้างมูลค่าเพิ่ม ประกอบด้วยกิจกรรมหลักที่ส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่น ได้แก่:

  • การถ่ายทอดนวัตกรรมเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กิจกรรมนวัตกรรมการจัดการจุลินทรีย์และสารสกัดจากพืชเพื่อการผลิตกระชายแบบชีววิธี
  • การสนับสนุนการ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ กิจกรรมการพัฒนาและส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่อยอดการใช้ประโยชน์จากกระชาย
  • กิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการจัดการผลผลิตทางเกษตร
  • กิจกรรมการผลิตพืชแบบปลอดภัย
  • กิจกรรมยกระดับเกษตรมูลค่าสูง
  • การส่งเสริม การตลาดและการท่องเที่ยว (นวัตกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อการท่องเที่ยวชุมชน)

2. โครงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (University as a Marketplace)

          มหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็น "ตลาดแห่งความรู้" จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการมี ช่องทางเข้าถึงตลาด (market access) และสร้าง ธุรกิจที่ยั่งยืน (sustainable business) ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดสมัยใหม่ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการ สร้างรายได้ (income generation) ให้กับครัวเรือน และได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการ สภาพปัญหา จนนำไปสู่การพัฒนาการตลาดแบบบูรณาการ ส่งผลให้ชุมชนได้รับผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นทั้งสิ้น 25 ผลิตภัณฑ์

3. โครงการพัฒนาต้นแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG

          โดยมหาวิทยาลัยได้นำผลงานวิจัยมาช่วยชุมชนพัฒนา ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมจากสีเปลือกมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร เป็นการสร้างธุรกิจใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสร้างมูลค่าจากสิ่งของเหลือใช้ เป็นนวัตกรรมเพื่อสังคม (social innovation) ที่ช่วยสร้าง การเสริมพลังทางเศรษฐกิจ (economic empowerment) ให้แก่ชุมชน โดยการนำวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ถือเป็นการสนับสนุน วิสาหกิจชุมชน (community enterprise) ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

4. โครงการยกระดับการท่องเที่ยวบนฐานวิถีชีวิตใหม่จากภูมิปัญญาท้องถิ่น

          มหาวิทยาลัยได้ส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล (digital inclusion) เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ (economic opportunities) ใหม่ๆ ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน ให้ทรัพยากรและความรู้ในการสร้างเครื่องมือประชาสัมพันธ์ดิจิทัล เช่น การสร้าง เว็บไซต์ด้วย Google Sites ให้กับชุมชนตำบลห้วยม่วง เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว ผลลัพธ์จากการสนับสนุนนี้ทำให้ชุมชนได้รับ รางวัลกิจกรรมดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2567 ซึ่งการที่ชุมชนตำบลห้วยม่วงได้รับรางวัลระดับจังหวัด เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการ เสริมสร้างศักยภาพให้แก่ท้องถิ่น (local empowerment)

5. โครงการสนับสนุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)

          มหาวิทยาลัยไม่ได้มองแค่การผลิต แต่ให้ความช่วยเหลือเชิงระบบผ่าน โครงการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเพื่อสร้างมูลค่าตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งในด้านเกษตร อาหาร และการท่องเที่ยว เพื่อให้ธุรกิจชุมชนเติบโตได้อย่างมั่นคง

6.โครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (NPRU Start up) โครงการนี้เป็นการลงทุนใน การพัฒนาทุนมนุษย์ (human capital development) โดยตรง มุ่งเน้นการเปลี่ยนนักศึกษาและศิษย์เก่าให้เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ผ่านกระบวนการบ่มเพาะที่ครบวงจร:

  • พัฒนาทักษะและความรู้: จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ "NPRU Startup Design Thinking Camp" เพื่อสร้างทัศนคติและเสริมทักษะการบริหารธุรกิจที่ยั่งยืน
  • ให้คำปรึกษาเชิงลึก: ให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์การตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการพัฒนาตราสินค้า (Branding)
  • สร้างความรู้ทางการเงิน: จัดอบรมให้ความรู้ด้าน การเงิน การบัญชี และภาษี (financial literacy) เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการธุรกิจให้เกิดผลกำไรสูงสุด
  • ผลลัพธ์เชิงประจักษ์: ประสบความสำเร็จในการสร้าง ผู้ประกอบการใหม่จำนวน 8 ราย ที่มีผลิตภัณฑ์และบริการออกสู่ตลาดจริง ได้แก่ อู๊ดห่อหมกปลาช่อน, สบู่สมุนไพร, กุ้งหวานเค็ม, หมูแดดเดียวหม่าล่า, แฮมเบอร์เกอร์, น้ำมะนาวผสมเยลลี่น้ำผึ้ง, น้ำตาลมะพร้าว และหมูแดดเดียว

สรุปผลลัพธ์และผลกระทบเชิงประจักษ์

          การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่สร้างทักษะและรายได้ แต่ยังเป็นการสร้าง ระบบการคุ้มครองทางสังคม (social protection systems) ในระดับชุมชนและในกลุ่มบัณฑิต ช่วยลดความเปราะบางและสร้าง ภูมิคุ้มกัน (resilience) ต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขจัดความยากจนอย่างยั่งยืน ดังนี้

  • สร้างองค์ความรู้และทักษะ: ชุมชนและผู้ประกอบการได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี นวัตกรรม และความรู้ด้านการตลาดที่สามารถนำไปใช้ได้จริง โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 500 คน
  • เกิดผลิตภัณฑ์และบริการใหม่: เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกระชาย ผ้ามัดย้อมจากวัสดุเหลือใช้ และเกิดบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นระบบ
  • เพิ่มรายได้และสร้างอาชีพ: โครงการต่างๆ ช่วยยกระดับเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชนโดยตรง จากกิจกรรมที่หนุนเสริมทำให้ครัวเรือนมีแหล่งผลิตพืชผักและอาหารปลอดภัยในครัวเรือนนำไปสู่การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้และสร้างความมั่นคงทางอาหารในครัวเรือน และได้ติดตามข้อมูลครัวเรือน 63 ครัวเรือน มีครัวเรือนที่มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จำนวน 37 ครัวเรือน
  • สร้างเครือข่ายความร่วมมือ: เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย ชุมชน และหน่วยงานท้องถิ่น นำไปสู่การพัฒนาที่เข้มแข็ง

รายละเอียดเพิ่มเติมดังเอกสารแนบ

8. จำนวนนักศึกษาขาดแคลนที่ได้รับทุนการศึกษา

จำนวนนักศึกษาขาดแคลนที่ได้รับทุนการศึกษา
            มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมยึดมั่นในปรัชญาการเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น โดยตระหนักว่า การศึกษาคือเครื่องมือสำคัญในการขจัดความยากจน และสร้างความเสมอภาคทางสังคม จึงมุ่งมั่นที่จะเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักศึกษาที่มาจากครอบครัวผู้มีรายได้น้อย (กลุ่มรายได้ครัวเรือน 20% ล่างสุดของประเทศ) เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและสำเร็จการศึกษาไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติต่อไป
           ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้จัดสรรทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 351 คน ดังนี้

 
การกำหนดเป้าหมายและการเข้าถึงนักศึกษากลุ่มขาดแคลน
มหาวิทยาลัยมีแนวทางในการระบุและเข้าถึงนักศึกษากลุ่มเป้าหมาย ดังนี้:
   1. ข้อมูลการรับสมัคร: ใช้ข้อมูลรายได้ครัวเรือนและข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นจากระบบการรับสมัครนักศึกษา (TCAS) และการรับสมัครตรงของมหาวิทยาลัย เพื่อคัดกรองและระบุกลุ่มนักศึกษาที่เข้าข่ายขาดแคลนทุนทรัพย์เบื้องต้น
   2. การคัดกรองเชิงรุก: หน่วยงานกองพัฒนานักศึกษาและอาจารย์ที่ปรึกษา ทำหน้าที่ให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งทุนต่างๆ แก่นักศึกษาที่แสดงความประสงค์หรือมีแนวโน้มว่าจะต้องการความช่วยเหลือ
   3. ระบบฐานข้อมูลนักศึกษา: จัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลสถานะทางเศรษฐกิจของนักศึกษา (โดยได้รับความยินยอม) เพื่อใช้ในการวางแผนจัดสรรทุนและให้ความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด
   4. จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณา: เพื่อพิจารณาให้นักศึกที่มีความขาดแคลนและต้องการทุนการศึกษาอย่างแท้จริง
การดำเนินงานและโครงการสนับสนุน
มหาวิทยาลัยได้ดำเนินงานผ่าน 2 กลไกหลัก คือ การมอบทุนการศึกษาโดยตรง และการแสวงหาความร่วมมือจากภายนอก
1. การมอบทุนการศึกษาโดยตรงจากมหาวิทยาลัย ที่มาจากการจัดสรรงบประมาณเงินรายได้ส่วนหนึ่ง เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาประเภทต่างๆ เช่น:
   - ทุนเรียนดีแต่ขาดแคลน
   - ทุน 84 พรรษา
   - ทุนจากกองทุนเพื่อการศึกษาและพัฒนาบุคลิกภาพ
2. การประสานงานความร่วมมือเพื่อขอสนับสนุนทุนจากภายนอก:  มหาวิทยาลัยดำเนินงานเชิงรุกในการสร้างเครือข่ายและประสานความร่วมมือกับองค์กรภายนอก เพื่อระดมทุนการศึกษาเพิ่มเติมให้กับนักศึกษา ได้แก่:
   • ภาคเอกชน: สร้างความร่วมมือกับบริษัท ห้างร้าน ในการมอบทุนการศึกษา หรือสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนานักศึกษา
   • มูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศล: ประสานงานเพื่อขอรับการจัดสรรทุนการศึกษาจากมูลนิธิต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการศึกษา
   • ศิษย์เก่าและผู้มีจิตศรัทธา: ประชาสัมพันธ์และเปิดช่องทางรับบริจาคเพื่อสมทบทุนการศึกษาแก่นักศึกษารุ่นน้อง
 
ผลลัพธ์และผลกระทบ (Outcomes and Impact)
   • นักศึกษากลุ่มเป้าหมาย สามารถเข้าถึงแหล่งทุน ได้มากขึ้น ช่วยลดอุปสรรคทางการเงินในการศึกษาต่อ
   • อัตราการสำเร็จการศึกษา ของนักศึกษาจากครอบครัวรายได้น้อยเพิ่มสูงขึ้น
   • ลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หลักฐานอ้างอิง

1.ทุนสนับสนุนการศึกษาแก่นักศึกษาที่มีผลการเรียนดี จำนวน 80 ทุน

2.ทุนอุดหนุนการศึกษาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ครั้งที่ 1 จำนวน 33 ทุน

3.ทุนอุดหนุนการศึกษาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ครั้งที่ 2 จำนวน 16 ทุน

4.ทุนนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 3 ทุน

4.ทุนจากการขอความร่วมมือ จำนวน 46 ทุน

9. การให้บริการจัดฝึกอบรม โครงการ/กิจกรรมต่างๆ เพื่อปรับปรุงพัฒนาการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานสำหรับทุกคน

          มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มีความมุ่งมั่นในการนำองค์ความรู้ นวัตกรรม และทรัพยากรไปใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน อันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตได้อย่างเท่าเทียม บริการขั้นพื้นฐานในที่นี้ครอบคลุมด้าน สุขภาพ (รวมถึงโภชนาการ) และ มาตรฐานการครองชีพ (รวมถึงอาหารปลอดภัย น้ำดื่ม สุขอนามัย พลังงานสะอาด ที่อยู่อาศัย และการสร้างทรัพย์สิน/รายได้) ผ่านการจัดโครงการฝึกอบรมและกิจกรรมที่หลากหลาย

โครงการและการดำเนินงานที่สำคัญ

          มหาวิทยาลัยได้ลงพื้นที่ชมชนเพื่อศึกษาปัญหา ความต้องการของชุมชน และบูรณาการองค์ความรู้ ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญของคณาจารย์และนักวิจัย เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการสำคัญ ดังนี้

1. โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรม องค์ความรู้และเทคโนโลยีเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรและชุมชนโดยตรง เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงทรัพยากรทางเศรษฐกิจ (access to economic resources) และเทคโนโลยี เพื่อสร้าง อาชีพที่ยั่งยืน (sustainable livelihoods) ให้แก่ชุมชนเกษตรกร ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (การผลิตพืชปลอดภัย) ไปจนถึงการสร้างมูลค่าเพิ่ม ประกอบด้วยกิจกรรมหลักที่ส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่น ได้แก่:

  • การถ่ายทอดนวัตกรรมเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กิจกรรมนวัตกรรมการจัดการจุลินทรีย์และสารสกัดจากพืชเพื่อการผลิตกระชายแบบชีววิธี
  • การสนับสนุนการ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ กิจกรรมการพัฒนาและส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่อยอดการใช้ประโยชน์จากกระชาย
  • กิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการจัดการผลผลิตทางเกษตร
  • กิจกรรมการผลิตพืชแบบปลอดภัย
  • กิจกรรมยกระดับเกษตรมูลค่าสูง
  • การส่งเสริม การตลาดและการท่องเที่ยว (นวัตกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อการท่องเที่ยวชุมชน)

2. โครงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (University as a Marketplace)

          มหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็น "ตลาดแห่งความรู้" จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการมี ช่องทางเข้าถึงตลาด (market access) และสร้าง ธุรกิจที่ยั่งยืน (sustainable business) ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดสมัยใหม่ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการ สร้างรายได้ (income generation) ให้กับครัวเรือน และได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการ สภาพปัญหา จนนำไปสู่การพัฒนาการตลาดแบบบูรณาการ ส่งผลให้ชุมชนได้รับผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นทั้งสิ้น 25 ผลิตภัณฑ์

3. โครงการพัฒนาต้นแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG

          โดยมหาวิทยาลัยได้นำผลงานวิจัยมาช่วยชุมชนพัฒนา ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมจากสีเปลือกมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร เป็นการสร้างธุรกิจใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสร้างมูลค่าจากสิ่งของเหลือใช้ เป็นนวัตกรรมเพื่อสังคม (social innovation) ที่ช่วยสร้าง การเสริมพลังทางเศรษฐกิจ (economic empowerment) ให้แก่ชุมชน โดยการนำวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ถือเป็นการสนับสนุน วิสาหกิจชุมชน (community enterprise) ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

4. โครงการยกระดับการท่องเที่ยวบนฐานวิถีชีวิตใหม่จากภูมิปัญญาท้องถิ่น

          มหาวิทยาลัยได้ส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล (digital inclusion) เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ (economic opportunities) ใหม่ๆ ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน ให้ทรัพยากรและความรู้ในการสร้างเครื่องมือประชาสัมพันธ์ดิจิทัล เช่น การสร้าง เว็บไซต์ด้วย Google Sites ให้กับชุมชนตำบลห้วยม่วง เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว ผลลัพธ์จากการสนับสนุนนี้ทำให้ชุมชนได้รับ รางวัลกิจกรรมดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2567 ซึ่งการที่ชุมชนตำบลห้วยม่วงได้รับรางวัลระดับจังหวัด เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการ เสริมสร้างศักยภาพให้แก่ท้องถิ่น (local empowerment)

5. โครงการสนับสนุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)

          มหาวิทยาลัยไม่ได้มองแค่การผลิต แต่ให้ความช่วยเหลือเชิงระบบผ่าน โครงการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเพื่อสร้างมูลค่าตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งในด้านเกษตร อาหาร และการท่องเที่ยว เพื่อให้ธุรกิจชุมชนเติบโตได้อย่างมั่นคง

6. การส่งเสริมด้านสุขภาพ โภชนาการ และสุขภาวะ

          มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นการให้ความรู้และสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับคนทุกช่วงวัย รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี

  • การดูแลผู้สูงอายุ, นวัตกรรมการบริหารจัดโรงเรียนผู้สูงอายุฯ, และกิจกรรม "สูงวัยอย่างไรให้มีสุขภาวะ": ให้ความรู้ ดูแล และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบ (สุขภาพ)
  • โครงการพื้นที่ต้นแบบสิ่งแวดล้อมสู่สุขภาวะ: พัฒนาสภาพแวดล้อมในชุมชนให้น่าอยู่ ถูกสุขลักษณะ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม (สุขภาพ, สุขอนามัย, ที่อยู่อาศัย)
  • โครงการ "เด็กยุคใหม่ห่างไกลควันบุหรี่" และ โครงการส่งเสริมการออกกำลังกายและเล่นกีฬาในโรงเรียน: มุ่งเน้นการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในกลุ่มเด็กและเยาวชน (สุขภาพ)
  • การดำเนินงานของ ศูนย์ทดสอบอาหารปลอดภัย: สร้างความมั่นใจในคุณภาพอาหารที่จำหน่ายในชุมชน (สุขภาพ, โภชนาการ)

สรุปผลลัพธ์และผลกระทบเชิงประจักษ์

          กิจกรรมและโครงการเหล่านี้ได้ส่งผลให้ชุมชนมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวมากขึ้น เข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย มีทางเลือกในการใช้พลังงานสะอาด และมีช่องทางในการสร้างรายได้ที่หลากหลายขึ้น ซึ่งล้วนเป็นการ เพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน และยกระดับคุณภาพชีวิตโดยรวมของประชาชนในพื้นที่เป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม

หลักฐานอ้างอิง

1.โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและโรงเรียนผู้สูงอายุ

2.โครงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน 

3.โครงการพัฒนาต้นแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG 

4.กิจกรรม ผู้สูงอายุ

5.กิจกรรม เด็กยุคใหม่ห่างไกลควันบุหรี่

6.ศูนย์ทดสอบอาหารปลอดภัย

10. งาน "นครปฐมเมืองอาหารปลอดภัย ศูนย์กลาง นำครัวไทย สู่ครัวโลก"

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้วอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม พร้อมด้วยรศ.ดร.สุวิมล นวลพระลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน ผศ.สมพล สุขเจริญพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ผศ.ดร.ปิยะวรรณ ปิ่นแก้ว อาจารย์สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษานำสินค้าเกษตรปลอดภัย และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น และผลงานออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของนักศึกษา ไปจัดแสดงในงาน "นครปฐมเมืองอาหารปลอดภัย ศูนย์กลาง นำครัวไทย สู่ครัวโลก" เพื่อร่วมขับเคลื่อนนครปฐมเมืองอาหารปลอดภัย และModel โครงการยกระดับเกษตรมูลค่าสูง ณ บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-15 กุมภาพันธ์2567

อ้างอิงข่าวประชาสัมพันธ์